Super User

Super User

พระหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พิมพ์สี่เหลี่ยมเล็ก ฐานบัวเม็ด 2 ชั้น เนื้อชินตะกั่ว

 

Somdageto 1  Somdageto 1

พระหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พิมพ์สี่เหลี่ยมเล็ก ฐานบัวเม็ด 2 ชั้น เนื้อชินตะกั่ว สภาพสวย ออกจากวัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท เคยติดรางวัลที่ 1 มาแล้ว พระดูง่าย ของแท้ ราคา 1 แสนบาท บาท โทร. 094-5037925 (เจ้าของ) (ปล่อยแล้ว)

พระสมเด็จวัดระฆังฯ สามชั้น  พิมพ์ใหญ่ พระประธาน

Somdageto 1  Somdageto 2

 

ตามรูปเป็นพระสมเด็จวัดระฆัง  สามชั้น  พิมพ์ใหญ่  พระประธาน สภาพพระสวย  ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง   มีมวลสารต่างๆที่สำคัญของสมเด็จโต  พรหมรังสี มากมาย  พระดูง่าย  เป็นพระแท้ของสมเด็จโต  พรหมรังสี    ราคาหลักล้านบาท  โทร. 094-5037925 (เจ้าของ)

พระสมเด็จวัดระฆังฯ สามชั้น  พิมพ์ใหญ่ พระประธาน

Somdageto 1  Somdageto 2

 

ตามรูปเป็นพระสมเด็จวัดระฆัง  สามชั้น  พิมพ์ใหญ่  พระประธาน สภาพพระด้านหน้าสวย  ด้านหลังสวยพอใช้  มีมวลสารต่างๆที่สำคัญของสมเด็จโต  พรหมรังสี มากมาย  พระดูง่าย  เป็นพระแท้ของสมเด็จโต  พรหมรังสี  ราคาหลักแสนบาท  โทร. 094-5037925 (เจ้าของ)

พระสมเด็จวัดระฆังฯ สามชั้น  พิมพ์ใหญ่ พระประธาน

Somdageto 1  Somdageto 2

 

ตามรูปเป็นพระสมเด็จวัดระฆัง  สามชั้น  พิมพ์ใหญ่  พระประธาน สภาพพระสวยพอใช้  พิมพ์ตื้น  มีมวลสารต่างๆที่สำคัญของสมเด็จโต  พรหมรังสี มากมาย  พระดูง่าย  เป็นพระแท้ของสมเด็จโต  พรหมรังสี  และผู้เชี่ยวชาญการตรวจสอบพระแท้  หลายคณะได้ออกใบรับรองไว้ว่าเป็นพระสมเด็จวัดระฆัง  สามชั้น  พิมพ์ใหญ่  พระประธาน  ของแท้ของสมเด็จโต  พรหมรังสี  ราคาหลักแสนบาท  โทร. 094-5037925 (เจ้าของ)

พระตามรูปเป็นพระหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า พิมพ์สี่เหลี่ยมเล็ก  ฐานบัวเล็บช้าง เนื้อชินตะกั่ว

 

 Luang pu suk 1  Luang pu suk 2

พระตามรูปเป็นพระหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า พิมพ์สี่เหลี่ยมเล็ก  ฐานบัวเล็บช้าง เนื้อชินตะกั่ว ออกที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท พระองค์นี้เคยส่งประกวดพระรายการพระหลวงปู่ศุข ออกวัดปากคลองมะขามเฒ่า พิมพ์สี่เหลี่ยมเล็ก เนื้อชินตะกั่ว มาแล้ว ติดที่ 1 มาแล้ว 3 ครั้งเมื่อ พ.ศ. 2523 ที่จังหวัดชัยนาท พ.ศ.2526 ที่จังหวัดนครสวรรค์ และ พ.ศ.2555 เป็นพระคนละพิมพ์กับพระฐานบัวเล็บช้างที่ออกวัดคลองขอม ซึ่งพระสองพิมพ์นี้ต่างกันทั้งบัวเล็บช้าง ยันต์ข้างองค์พระและฐานพระก็ต่างกัน และอื่นๆอีก

พระตามรูปเจ้าของเดิมได้มาโดยทำบุญกับทางวัดปากคลองมะขามเฒ่า  สมัยหลวงปู่ศุขยังมีชีวิตอยู่แค่บาทเดียว  เสนอ ราคา 120,000 บาท  โทร. 094-5037925 (เจ้าของ (คนจองแล้ว)

ยันตใต้ฐานรูปหล่อเล็กหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ ปี 2482

จากคำบอกเล่าผู้ที่เคยช่วยเขียนยันต์ให้หลวงพ่อเดิม และจากญาติสนิทของหลวงพ่อเดิม  ที่มารับใช้หลวงพ่อเดิมเป็นประจำบอกว่าหลวงพ่อเดิมพิถีพิถันกับการสร้างรูปหล่อของท่านมาก  โดยเฉพาะยันต์ใต้ฐานพระ  หลวงพ่อเดิมบอกว่า  ยันต์ที่เขียนใต้ฐานนั้นสำคัญมาก  ทำให้เกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ์ได้สูงสุดอย่างแท้จริง  และต้องจาร(จาร คือการเขียนด้วยเหล็กแหลม)ยันต์ให้ลึกมองเห็นให้ชัดเจนทั้งเส้นยันต์และตัวอักษรขอม  ซึ่งหลวงพ่อมองกาลไกลในอนาคตว่า  เส้นยันต์ต่างๆที่เขียนมีโอกาสลบเลือนได้ง่าย ถ้าเขียนไม่ลึกไม่ชัดเจน  เนื่องจากสภาพความเก่าของโลหะที่ล่วงเลยเป็นเวลานานหลายสิบปี

                รูปหล่อเล็กหลวงพ่อเดิมปี 2482 ไม่ใช่ยันต์ที่หลวงพ่อเดิมจารทั้งหมดเพราะสร้างเป็นจำนวนมาก  จึงใช้ให้ลูกศิษย์ทั้งพระและฆราวาส  ช่วยจารยันต์ให้ด้วย  แต่ทุกคนที่ช่วยจารยันต์ให้ท่านต้องไปหัดเขียนยันต์ให้เก่ง  ไม่ลิหรือแล่งไปทางอื่นที่ไม่ต้องการ  การใช้เหล็กจารเขียนยันต์ให้ลึกมองเส้นจารได้ชัดเจน  จึงเป็นการยากมาก  ไม่เหมือนใช้ดินสอเขียนยันต์ในกระดาษ ซึ่งเขียนง่าย  เขียนได้สวยงามตามที่ต้องการ  ไม่ลิไม่แล่งเหมือนใช้เหล็กจารโลหะ  โดยเฉพาะโลหะทองแดง หรือทองเหลือง  คนจารยันต์ให้หลวงพ่อ  แม้จะหัดเขียนจนเก่งเชี่ยวชาญ  เขียนยันต์สวยงามมาแล้วก็ตาม  แต่เมื่อมาเขียนยันต์ใต้ฐานรูปหล่อเล็ก  ซึ่งมีพื้นที่นิดหน่อยเขียนยันต์ตามต้องการไม่ได้  จะทำให้เนื้อที่ๆเขียนยันต์ไม่พอ  คนเขียนจะต้องเก็งคำนวณพื้นที่ให้พอกับยันต์  และต้องมีสมาธิในการจารเป็นอย่างมาก  และชำนาญจริงๆ  การจารเส้นยันต์  และตัวอักษรขอมถ้าจารไม่ชัดเส้นไม่ลึก หรือจารยันต์ผิด  หลวงพ่อเดิมจะให้ไปถูลบออกและจารใหม่อย่างนี้ทุกองค์  ยันต์จะสวยหรือไม่ๆสำคัญ  แต่ขอให้อ่านได้ง่าย เส้นจารยันต์ลึก จารได้ถูกต้องทั้งอักษรขอมและเส้นยันต์

                ถ้าหลวงพ่อเดิมจารยันต์เองจะลึกคมชัดอ่านได้ชัดเจน  เหล็กจารของท่าแหลมคมมาก  ท่านกดเหล็กจารแรงเนื่องจากหลวงพ่อมีสมาธิสูงในการจาร  และจารยันต์ชำนาญมาก  จึกไม่ลิไม่แล่งเหมือนคนอื่นๆ  หลวงพ่อบอกจารยันต์เสร็จความขลังความศักดิ์สิทธิ์ก็เกิดขึ้นแล้ว

                ปัจจุบันการปลอมรูปหล่อเล็กของหลวงพ่อเดิม  จะใช้บล็อคแม่พิมพ์ที่เรียกว่าบล็อควิทยาศาสตร์  โดยใช้ของแท้มาถอดพิมพ์  ตำหนิที่ออกมาจึงเหมือนหมด  แต่การเขียนยันต์ใต้ฐานจะใช้วิธิจารแผ่วๆ กดเหล็กจารไม่ลึก  โอกาสเขียนลิหรือแล่งไปทางอื่นจึงน้อยเขียนง่ายจารง่าย  จึงมองยันต์ไม่ค่อยชัด  บางคนจารยันต์ผิดก็โมเมใช้ได้อย่างนี้ยิ่งนานไปหลายสิบปี  ยันต์จะลบเลือนออกจนมองไม่รู้เรื่องเพราะสภาพความเก่าของโลหะ  บางคนเข้าใจว่าหลวงพ่อแก่แล้ว  ไม่มีแรงกดเหล็กจาร  การจารยันต์จึงแผ่วเบาไม่ลึก  ซึ่งเป็นความคิดความเข้าใจที่ผิด  และมีหลายๆคนที่ได้พระรูปหล่อดังกล่าวนี้  ไปคล้องติดตัวในราคาที่สูงมาก

                เซียนพระหลวงพ่อเดิมระดับอาจารย์หลายคนเช่น  ท่านอาจารย์ อรุณ สมสาร  เจ้าของศูนย์พระเครื่องหลวงพ่อเดิมอุปถัมภ์  ซึ่งเป็นผู้ที่คนทั่วไปยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญการดูพระเครื่องของหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพเป็นอย่างมากคนหนึ่ง  เคยบอกผู้เขียนไว้ว่ายันต์ใต้ฐานรูปหล่อหลวงพ่อเดิมปี 2482 ไม่ว่าจะเป็นยันต์ที่หลวงพ่อเดิมจารเอง  หรือลูกศิษย์จารให้  เส้นจารยันต์จะลึกมองเห็นได้ชัดเจน  ตัวยันต์และอักษรขอมไม่ผิดถ้าเห็นแผ่วๆไม่ชัดเจนมองไม่ค่อยเห็น  ไม่ควรเช่าหรือซื้อไว้

                

longpooSliver A1 longpooSliver A2
 รูปหล่อหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน ด้านหน้า  รูปหล่อหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน ด้านหลัง

พระหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน  เนื้อทองคำ พิมพ์นิยม องค์นี้ส่งเข้าประกวดพระมาแล้ว 4 ครั้ง ติดรางวัลที่ 1 ทั้ง 4 ครั้ง  ครั้งแรกปี 2523  ครั้งที่ 2 ปี 2555  ได้รับประกาศนียบัตร และโล่รางวัลทั้งสองครั้ง  ครั้งที่ 3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 พ.ย.2561  ที่โรงเรียนหันคาพิทยาคม อ.หันคา จ.ชัยนาท  ในรายการประกวดพระหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน พิมพ์นิยม เนื้อทองคำ  (พระแท้)  ก็ได้รับรางวัลที่ 1

ประวัติพระหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน เนื้อทองคำ องค์นี้  หนักประมาณ 2 บาท 3 สลึง   เจ้าของคนปัจจุบันได้รับพระมาจากคุณตาซึ่งคุณตาบอกว่าได้เช่าพระเนื้อทองคำองค์นี้  เมื่อประมาณ พ.ศ.2470  จากคนแก่คนหนึ่งที่มีส่วนช่วยงานในวัดบางคลาน  สมัยที่หลวงพ่อเงินยังมีชีวิตอยู่  บอกคุณตาว่าเป็นพระที่ หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน ดำเนินการสร้างเอง  หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน มรณภาพ  พ.ศ. 2462 คุณตาได้คล้องรูปหล่อหลวงพ่อเงินองค์นี้ติดตัวเป็นประจำ  จนเข้าสู่วัยชรา  จึงมอบพระองค์นี้ให้เจ้าของคนปัจจุบันซึ่งเป็นหลานชาย  เจ้าของคนปัจจุบันเคยนำพระแช่ในน้ำกรดกำมะถันเข้มข้น(กรดซัลฟิวริก)  เป็นเวลาหลายๆวันเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นพระเนื้อทองคำแน่  แต่ปรากฏว่าพระอยู่ในสภาพดีไม่เป็นไร  จึงมั่นใจว่าเป็นพระเนื้อทองคำแน่นอน  สนใจติดต่อคุณ พอสุข  0945037925

 ฐานรูปหล่อหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน เนื้อทองคำ

longpooSliver A3

รูปหล่อหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน เนื้อทองคำองค์นี้ไม่ต้องตัดฉนวน  เพราะปริมาณเนื้อทองคำที่เทลงหล่อองค์พระได้ปริมาณพอดีฉนวนปรากฏเป็นตัว นะ ใต้ฐานองค์พระหลวงพ่อเงินอย่างสวยงาม  นับเป็นเรื่องอัศจรรย์ในการหล่อพระหลวงพ่อเงินองค์นี้  ถือได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่ง

ประกวดพระครั้งที่ 4 หลวงพ่อเงินวัดบางคลานเนื้อทองคำ พิมพ์นิยมที่เทศบาลหันคาจังหวัดชัยนาท วันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 ก็ชนะเลิศติดที่ 1

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

 รูปหล่อหลวงพ่อเงินวัดบางคลานพิมพ์ขี้ตา

longpooSliver C1

 ราคา 1 ล้านบาท  (ปล่อยแล้ว)

 สนใจติดต่อ 0945037925

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

รูปหล่อหลวงพ่อเงินวัดบางคลานพิมพ์นิยมเนื้อทองเหลือง

longpooSliver B1 longpooSliver B2

 

สนใจติดต่อ 0945037925 (ปล่อยแล้ว)

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

พระพุทธรูปเชียงแสน สิงห์หนึ่ง สนิมเขียวหยก  หน้าตัก  16 นิ้ว

 

 

                                           

                                                                              ( ปล่อยแล้ว)

 

ส่งพระเข้าประกวด 3 ครั้ง ติดรางวัลที่หนึ่ง 2 ครั้ง เมื่อปี 2523 และปี 2555 และติดรางวัลที่ 2 ปี 2519 พระที่ส่งไม่จำกัดเนื้อและขนาดองค์พระ  เป็นพระตกทอดรับมาจากบรรพบุรุษเนื้อพระเก่าและดินขี้เถ้าแกลบในองค์พระ  มีสภาพเก่าแข็งดุจเนื้อหิน   เป็นจุดชี้ความเก่าที่สำคัญของพระ  ที่ของใหม่จะทำเลียนแบบให้เก่าเหมือนไม่ได้  พระหนักหลายสิบกิโลกรัม  ต้องใช้  2 คนยกเคลื่อนที่ “พระพุทธคุณ  ดีพร้อมทุกสิ่งทุกอย่าง  มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างสูงสุด คุ้มครองวงศ์ตระกูลให้เจริญรุ่งเรือง เป็นมหามงคลสูงสุด  มีโชคมีลาภ  เมตตามหานิยม  ผู้บูชาจะพบแต่เรื่องดีๆตลอด  ช่วยคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆ ตลอดจนสิ่งเลวร้ายต่างๆจากศัตรูที่มองไม่เห็น  และแก้อาถรรพ์ต่างๆที่ไม่ดีให้หมดไป  ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธคุณศักดิ์สิทธิ์สูงสุด  ที่สิงสถิตย์อยู่ที่องค์พระพุทธรูปเชียงแสนสิงห์หนึ่งองค์นี้”  ในปี พ.ศ.2511  พระพุทธรูปเชียงแสนสิงห์หนึ่ง  ก็เป็นองค์หนึ่งในจำนวนพระที่ยิงไม่ออกอีกหลายๆองค์  ที่นายเทียมฯได้ทดลองยิงด้วยปืนพกขนาดจุด 22 หลายนัด  ปรากฏว่ากระสุนปืนด้านยิงไม่ออก  เมื่อนำกระสุนปืนที่ยิงแล้วบรรจุยิงไปทางอื่นอีกครั้ง ปรากฏว่ากระสุนปืนยิงออกทุกนัด ต่อหน้าคนนับร้อยที่มามุงดู ในเขตท้องที่จังหวัดนนทบุรี  รายได้บางส่วนช่วยผู้สูงอายุคนชราที่ตกทุกข์ยากไร้  ขัดสนเงินทอง ฯลฯ  สนใจติดต่อ คุณพอสุข 094-5037925 

                                       chingsan 3

ดินขี้เถ้าแกลบในองค์พระ  มีสภาพเก่าแข็งดุจเนื้อหิน  เป็นจุดชี้ความเก่าที่สำคัญของพระ  ที่ของใหม่จะทำเลียนแบบให้เก่าเหมือนไม่ได้

                                     chingsan 4

 ฐานพระแสดงให้เห็นเนื้อในองค์พระที่เกิดสนิมเขียวและขี้เถ้าแกลบที่กลายสภาพแข็งดุจหิน

พระยอดธง  กรุบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย

                       

                               เนื้อทองคำ                             เนื้อเงินสนิมดำ                              เนื้อชินเงิน

พระยอดธงเนื้อทองคำ  เนื้อเงิน และเนื้อชินเงิน  ตามภาพพระที่ลงไว้นี้ พระทั้ง  3 องค์ขุดพบในเขตท้องที่จังหวัดสุโขทัย  น่าเชื่อว่าเป็นพระสร้างใน สมัยสุโขทัย  สันนิษฐานว่าพระยอดธงทองคำใช้สำหรับพระมหากษัตริย์หรือแม่ทัพระดับสูงของกองทัพ  ส่วนตำแหน่งรองๆลงมาก็คงเป็นพระยอดธงเนื้อเงิน  พระยอดธงเนื้อทองคำ  และเนื้อเงิน ตามภาพ มีลักษณะเหมือนกัน ขนาดเท่ากัน  ขุดได้ในกรุเดียวกัน มีพุทธลักษณะเป็นพระนั่งมารวิชัย หน้าตักกว้างประมาณ  1.7 ซม. วัดส่วนสูงจากยอดพระเกศมายังปลายสุดของแกนชนวนประมาณ 3.8 ซม. พระยอดธงเนื้อทองคำหนักประมาณ  22 กรัม รูปทรงเป็นองค์พระพุทธปฎิมาทั้งองค์  มีลักษณะสวยงามตลอดองค์  ตั้งแต่ยอดพระเกศถึงแกนชนวน แกนชนวนมีลักษณะมนเป็นสามเหลี่ยมดูสวยงาม  ช่างหลวงคงตั้งใจทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับพระมหากษัตริย์และแม่ทัพระดับสูงของกองทัพเท่านั้น มีความเก่าดูง่าย มีศิลปะปราณีตและสวยงามกว่าพระยอดธงที่ขุดได้จากกรุอื่นๆ มาก  เช่น พระยอดธงสมัยอยุธยา พระยอดธงกรุนครศรีธรรมราช  พระยอดธงใบข้าว  เป็นต้น

                พระยอดธงเนื้อทองคำและเงินคู่นี้  มีพระพุทธคุณดีพร้อมทุกสิ่งทุกอย่าง แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายต่างๆดีมาก  คุ้มครองวงษ์ตระกูลให้เจริญรุ่งเรืองและดีเด่นด้านเมตตามหานิยม  กับมีโชคมีลาภดี  เป็นมหามงคลสูงสุด และคงกระพันชาตรี”    จากหนังสือพิมพ์เมืองชัย จังหวัดชัยนาท  ได้ลงเรื่องพระยอดธงเนื้อทองคำและเนื้อเงินคู่นี้ไว้ว่า  เมื่อเดือนตุลาคม  2510  พลทหารวันชัย  กลิ่นบุหงา  ทหารสังกัดหน่วยจงอางศึก  ในยุทธภูมิปราบปรามพวกเวียดกง  ถูกพวกเวียตกงลอบยิงด้วยปืนยิงเร็ว กระสุนปืนถูกบริเวณต้นแขนเสื้อขาด  มีบาดแผลเป็นรอยไหม้ และรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยเท่านั้น  และพวกเวียตกงยังใช้ระเบิดมือขว้างเข้าใส่  จนทำให้ทหารผู้นี้ถูกสะเก็ดระเบิดอย่างจังบริเวณหน้าอก  ชายโครงและต้นคอ  แต่บาดแผลที่ถูกสะเก็ดระเบิดนั้น  เป็นเพียงฟกช้ำดำเขียวเท่านั้น ไม่ปรากฏว่าสะเก็ดระเบิดสามารถทะลุทะลวงร่างกายของทหารผู้นี้แม้แต่ชิ้นเดียว  แต่ทหารผู้นี้ก็มีอาการจุกแน่นหายใจไม่ค่อยออก แพทย์สนามต้องช่วยปฐมพยาบาลให้ออกซิเจน  และให้พักฟื้นระยะหนึ่งก็กลับไปสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามเดิม ซึ่งจากการถูกซุ่มโจมตรีครั้งนี้  มีทหารอีกหลายนาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสและตาย  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทหารผู้นี้ มีหนังสือพิมพ์บางฉบับได้ลงข่าวให้ประชาชนได้อ่านกันมาแล้ว และผู้สื่อข่าวสงครามของสหรัฐอเมริกา  ยังถ่ายภาพหลักฐานไปเผยแพร่ยังประเทศของเขาด้วย ทหารผู้นี้ใช้พระยอดธงเนื้อทองคำ  พระยอดธงเนื้อเงินและเขี้ยวหมูตัน 1 อัน (เป็นเขี้ยวหมูที่พระอาจารย์สมัยเก่าปลุกเสกมาแล้ว) คุ้มครองตัวในครั้งนี้ และได้ยืนยันว่าตนรอดตายจากอาวุธของพวกเวียตกงครั้งนี้ ก็เพราะได้รับความคุ้มครองจากพระยอดธงคู่นี้  ทุกครั้งที่ออกปฏิบัติหน้าที่ ก็ได้อาราธนาพระยอดธงสององค์นี้ให้ช่วยคุ้มครองให้ทุกครั้ง  และขณะเดียวกันก็ภาวนาพระคาถากำกับพระยอดธงไปด้วย  พระคาถากำกับพระยอดธงองค์นี้คือ  “อิกะวิติ  อะสังวิสุโลปุสะพุภะ”  เป็นพระคาถาที่พระอาจารย์ดังสมัยก่อน ได้ให้คุณปู่ของทหารผู้นี้ไว้  ว่าเป็นพระคาถาภาวนากำกับพระยอดธงคู่นี้โดยเฉพาะ  จะทำให้มีพระพุทธานุภาพศักดิ์สิทธิ์ยิ่งๆขึ้น  ในอดีตมีนายทหารหลายนาย  ได้ติดตามพระยอดธงคู่นี้  เพื่อขอเช่าในราคาหลายหมื่นบาท  แต่เจ้าของเสียดายยังไม่ยอมปล่อยให้ ต่อมาพระเนื้อทองคำและเนื้อเงินคู่นี้เปลี่ยนมือถึงเจ้าของคนปัจจุบัน และได้ฝากปล่อยพระคู่นี้มายังรายการนี้ด้วย ในราคา 4.5 แสนบาท ติดต่อคุณพอสุข  094-5037925 พระอยู่ในตลับทองคำทั้งสององค์หนักหลายบาท

 (ปล่อยแล้ว)

 

วิธีดูพระยอดธง

พระยอดธง  มีพุทธลักษณะเป็นพระนั่งมารวิชัย  ขัดสมาธิราบ วัสดุที่ใช้สร้างอาจหล่อด้วยเนื้อชินเงิน  เนื้อสัมฤทธิ์  เนื้อเงิน  เนื้อนาค  เนื้อทองคำ  ปั้นองค์พระแบบลอยตัว  ดูได้ทุกๆ ด้าน สมัยโบราณวัสดุที่ใช้สร้างจะเป็นเนื้อโลหะ  ยังไม่เคยขุดพระยอดธงของเก่าจากท้องที่ใด  ที่สร้างด้วยเนื้ออย่างอื่นเช่นดินหรือปูน  เป็นต้น ลักษณะที่สำคัญในการเรียกชื่อพระเครื่ององค์นั้นว่าเป็นพระยอดธงหรือไม่ จะดูได้จากเดือยหรือแกนชนวน ที่ยื่นออกมาจากฐานพระหรือส่วนล่างขององค์พระ  บางองค์อาจเป็นแกนลักษณะตรง  หรือบางองค์อาจมีลักษณะเป็นแกนหมนแบบสามเหลี่ยมแลดูสวยงาม  ด้านใต้องค์พระที่มีแกนชนวนที่ยื่นออกมา ในสมัยต่อมาเรียกชื่อพระว่า “ พระยอดธง ”  การหล่อพระองค์เล็กๆ ตามปกติ ช่างจะทำแกนชนวนยื่นลงมาจากใต้องค์พระ  เพื่อเวลาเทโลหะที่ใช้หล่อพระลงไปในพิมพ์พระ  โลหะที่หลอมละลายจะได้ไหลลงได้เต็มองค์พระ  ซึ่งต้องทำไว้ทุกองค์  จะตัดแกนชนวนออกหรือไม่เท่านั้น  แกนชนวนที่ยื่นลงมาจากใต้องค์พระนี้  สมัยโบราณจึงใช้แกนชนวนนี้ให้เป็นประโยชน์  เอาไว้ใช้มัดหรือผูกติดกับยอดเสาธงประจำกองทัพต่อไป

ในการออกศึกสงครามสมัยโบราณของกองทัพไทย  ต้องมีธงประจำกองทัพ  พระมหากษัตริย์ทรงเป็นจอมทัพ  ออกศึกแบบประชิดตัวต่อตัว  การมีธงที่ประดิษฐานพระพุทธปฏิมาองค์เล็กๆ อยู่บนยอดธงด้วย  ก็เพราะพระพุทธานุภาพแห่งพระพุทธคุณที่สิงสถิตย์อยู่ที่องค์พระพุทธปฏิมาองค์เล็กๆอยู่บนยอดธงนั้น  จะทำให้จิตใจของผู้ที่อยู่ในกองทัพทุกคน  มีเครื่องยึดมั่นจิตใจ  มุ่งต่อสู้กับศัตรูด้วยความเชื่อมั่นโดยมิได้ครั่นคร้ามเกรงกลัว  และชนะศัตรูในที่สุด  ดังนั้นการสร้างพระยอดธงแต่ละองค์  เพื่อให้พระมหากษัตริย์สมัยนั้นได้ทรงใช้คุ้มครองนับถือ  ป้องกันประเทศให้มีความสงบสุข ให้เจริญรุ่งเรือง  เมื่อถึงคราวออกทัพจับศึก  ก็จะนำธงที่ประดิษฐานพระยอดธงนี้ออกรบาชูนำหน้าลุยข้าศึก  จึงต้องเป็นพระยอดธงที่มีความขลังมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างสูงสุด  พิธีกรรมในการจัดสร้างจึงต้องพิถีพิถันมาก  มีพิธีบรวงสรวงที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งเทพ  เทวาต่างๆ  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ให้มาช่วยบันดาลให้พระยอดธงเกิดความขลังและมีความศักดิ์สิทธิ์  พระอาจารย์ที่มาร่วมกันกระทำพิธีปลุกเสกพระยอดธงจะต้องเป็นพระอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคมขลังจริงๆ  มีสมาธิจิตสูงเป็นอย่างมาก  มีชื่อเสียงเลื่องลือในรัชกาลนั้นๆ  พระอาจารย์จอมปลอมไม่เก่งจริง  หรือไม่มีคุณวิเศษอะไร  จะไม่มีโอกาสเข้าร่วมพิธีโดยเด็ดขาด  พระอาจารย์บางท่านก็อาจสำเร็จฌาณสมาบัติขั้นสูง  เชี่ยวชาญทั้งสมถะกรรมฐาน  และวิปัสสนากรรมฐาน  ซึ่งพระสงฆ์ในสมัยโบราณที่สำเร็จขั้นนี้ ย่อมหาง่ายกว่าสมัยปัจจุบันนี้มาก ซึ่งพระอาจารย์ทั้งหมดก็ได้ร่วมกันกระทำพิธีมหาพุทธาภิเษก  และอธิษฐานจิตให้พระยอดธงนั้น ให้มีความขลังมีความศักดิ์สิทธิ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหตุนี้พระยอดธงที่สร้างในสมัยโบราณจริงๆโดยพระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้จัดสร้าง ย่อมมั่นใจและเชื่อมั่นในพลังพุทธคุณได้อย่างเต็มที่  มีความขลังมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างสูง  คุ้มครองผู้มีไว้ติดตัวให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายต่างๆได้จริง

                พระยอดธงพบในสถานที่ต่างๆกัน  ในยุคสมัยต่างๆ กัน เช่น  พระยอดธงใบข้าวพบในเมืองเชียงแสน  พระยอดธงกรุพระ จ.นครศรีธรรมราช  พระยอดธงสมัยอยุธยา เช่น พระยอดธงวัดไก่เตี้ย  ลักษณะพระเป็นการสร้างโดยฝีมือชาวบ้าน  ส่วนมากแกนชนวนมีลักษณะตรง  มีเนื้อทองคำและเงินด้วย  พระยอดธงสมัยอยุธยาเนื่องจากสร้างไว้มาก  จึงหาเช่าได้ในราคาไม่แพงมาก 

                สมัยสุโขทัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์  ขึ้นครองราชย์เมื่อ พ.ศ.1792  เป็นกษัตริย์องค์แรกแห่งราชวงศ์พระร่วง  พ่อขุนรามคำแหงมหาราช  เป็นกษัตริย์องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์พระร่วง  ขึ้นครองราชย์เมื่อ พ.ศ.1822  เป็นพระมหากษัตริย์ที่เก่งกล้าสามารถในการรบเป็นอย่างมาก  พระองค์ได้แผ่แสนยานุภาพและกำลังกองทัพไปในที่ต่างๆ ขยายอาณาเขตไปได้ไกล สามารถปราบศัตรูและเจ้าเมืองต่างๆได้อย่างราบคาบ  ได้ทะนุบำรุงบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองมาก ศาสนาพุทธเจริญรุ่งเรืองมาก ในปี พ.ศ.1822  นี้ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงปลูกต้นตาลและได้จัดสร้างพระพุทธปฏิมาองค์เล็กๆ  ที่ใช้ประดิษฐานบนยอดธงประจำกองทัพ  และบนยอดธงที่ใช้ปักตามเขตพระราชฐานของพระองค์  เพื่อเป็นมหามงคล  และช่วยคุ้มครองป้องกันภัย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากคาถาอาคมของศัตรู  ตลอดจนสิ่งเลวร้ายจากศัตรูที่มองไม่เห็น และแก้อาถรรพณ์ต่างๆที่ไม่ดีให้หมดไปด้วยอำนาจแห่งพระพุทธคุณที่สิงสถิตย์อยู่ที่องค์พระพุทธปฏิมาองค์เล็กๆบนยอดธงนั้น รวมทั้งจัดสร้างพระพุทธรูปขนาดต่างๆ ด้วย  ได้นิมนต์พระอาจารย์ที่มีคุณวิเศษดีที่สุดในยุคนั้น  เข้าร่วมกระทำพิธีที่ปลุกเสกพระพุทธปฏิมาดังกล่าว ให้มีความขลัง  มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างสูงสุด  เพื่อเป็นมหามงคล  สร้างโชคชัยและความยืนยง ให้แก่รัชกาลของพระองค์ 

               

StartPrev12NextEnd
Page 2 of 2